วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

(คลิปเต็มไม่ตัด) สัมภาษณ์แรก! 'ปันปัน' แจงกรณีโพสไอจีด่า 'น้ำชา'





มาฟังกันชัดๆ! สัมภาษณ์แรก'ปันปัน' กรณีโพสไอจีด่า 'น้ำชา'กะxรี่ เสียงสูง โดยเธอกล่าวว่า  ไปได้ยินอะไรมาที่มันฟังแล้วแปลกๆ แต่จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ทำให้วู่วามพิมข้อความไปแบบนั้น ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องของเธอ เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ผิดที่เข้าไปยุ่งเอง ก็ได้โทรไปขอโทษเขาแล้ว ขอโทษพ่อแม่น้ำชาด้วยที่ทำให้เดือดร้อน เขายังโกรธอยู่ และบอกว่าจะดีมากถ้าเธอเข้าไปขอโทษต่อหน้าอีกที ซึ่งเธอเองก็พร้อมและเข้าใจความรู้สึกน้ำชา เพราะถ้าเป็นเธอก็คงโกรธมากเหมือนกัน แต่ประเด็นหึงแฟนเก่า มาร์ช จุฑาวุฒ นั้นคงไม่ใช่เพราะต่างก็จบกันไปนานแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันนอกจากเรื่องงาน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเธอได้ตัดสินใจออกจากต้นสังกัดนานดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรู้สึกผิดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายหลายครั้ง ครอบครัวเธอก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยเช่นกัน

ซึ่งหลังนั้น ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สาว น้ำชา ชีรณัฐ ก็ได้โพสความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวถึงกรณีที่ปันปันออกมาขอโทษ ตนพร้อมให้อภัยและลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เผยห่วงความรู้สึกพ่อกับแม่มากที่สุด



ทีมข่าว Narin Update

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สุดช๊อค! เด็กชาย 13 ปี ฆ่าโหด3 พี่น้อง 4- 7 ขวบ โหดร้ายใช้หินทุบหัว มีดปาดคอ (ชมภาพ)


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เว็ปไซด์ต่างประเทศ people มีรายงานเหตุการณ์สยองและช็อกคนทั้งประเทศ กรณีเด็กชายอายุเพียง 13 ปี ก่อเหตุฆ่าเด็ก 3 พี่น้อง อายุ 4 ขวบ 7 ขวบ และ 8 ขวบ เสียชีวิต ในมณฑลกวางตุ้ง ของประเทศจีน




จากการสอบสวนทราบว่า เด็กชายที่ก่อเหตุคือ เด็กชาย เฉิน หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 6 ขวบแล้วเข้าไปอยู่ในป่า เพราะถูกพ่อแม่ด่าอยู่บ่อยๆ กระทั่งวันที่ 18 กรกฎาคม 2559 ได้เดินทางเข้าในหมู่บ้านของเด็ก 3 คนนี้ แล้วถามเด็กว่าในบ้านมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แต่เด็กทั้ง 3 ไม่บอก จึงก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบและมีดแทงเพื่อฆ่าปิดปาก

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สลด! พ่อขืมขืน-เตะแขนลูกเลี้ยง1ขวบเศษจนหักก่อนแม่เอาน้ำร้อนลวกคอ


พ่อเลี้ยงข่มขืนเด็กขวบเศษ แม่แท้ๆ จับกรอกน้ำร้อนเจ็บสาหัส

พ่อเลี้ยงข่มขืนเด็กขวบเศษ แม่แท้ๆ จับกรอกน้ำร้อนเจ็บสาหัส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 ก.ค.) สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุมตัว นายปิยะ อายุ 21 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และนางนิด อายุ 21 ปี สัญชาติกัมพูชา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส 
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา รพ.แหลมฉบัง ได้แจ้งว่ารับรักษาอาการ เด็กหญิงเอง (นามสมมุติ) อายุ 1 ปี 5 เดือน ในสภาพมีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ แขนและขาหัก ผิวหนังบวมพอง และบริเวณปากถูกน้ำร้อนลวก อาการสาหัส 
เจ้าหน้าที่นำตัว นางนิด แม่ของเด็ก และนายปิยะ พ่อเลี้ยง ที่ทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มาสอบสวน จนทั้งคู่รับสารภาพว่า ในวันที่  21 ก.ค. ขณะนางนิดกลับจากไปซื้ออาหารกลางวัน พบว่านายปิยะนอนอยู่ที่ห้อง และลูกสาวมีเลือดออกที่อวัยวะเพศ 
ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. นายปิยะได้ทำร้ายเด็กหญิงเอง นางนิดจึงเข้าไปห้าม จนนายปิยะกระชากแขนเด็กอย่างแรง แต่นางนิดพยายามต่อสู้จนคว้าลูกกลับมาได้ โดยไม่รู้ว่าลูกแขนหัก และต่อมาในวันที่ 26 ก.ค. ขณะที่เด็กหญิงเอ ร้องไห้ นางนิดได้ต้มน้ำร้อนแล้วรอกปากให้กิน โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นน้ำร้อน จนเด็กหญิงเอ แน่นิ่งจึงนำไปส่งรพ.
จากการสอบสวน นางนิด เล่าว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจเพราะไม่รู้ว่าน้ำร้อน ส่วนที่ลูกแขนขาหักเพราะถูกนายปิยะทำร้าย ตนพยายามช่วยแล้ว ทั้งนี้ รู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด และจะไม่ทำอีก 
ในขณะที่ นายปิยะ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า ตนเองทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนเองไม่ได้ทำอะไรมาก และขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา อยากขอโทษน้อง ขอให้น้องปลอดภัย 
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วินาทีระทึก!! เสือขย้ำหญิงจีนที่สวนสัตว์กรุงปักกิ่ง เสียชีวิต 1 เจ็บ 1 กล้องวงจรจับภาพ (ชมคลิป)


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมว่า เกิดเหตุเสือในสวนสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ฆ่าสาวจีนตายรายหนึ่งและทำให้บาดเจ็บอีกรายหนึ่ง ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นจังหวะที่หญิงคนหนึ่งเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะถูกเสือตัวใหญ่วิ่งมาขย้ำและลากหญิงคนดังกล่าวออกไปจากมุมกล้อง

โดยเว็บไซต์ไชน่านิวส์ รายงานว่า เหตุเกิดขึ้นที่สวนสัตว์ป่าปักกิ่ง ป่าต้าหลิง ไวด์ไลฟ์ เวิลด์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หลังจากผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกจากรถที่นั่งอยู่เนื่องจากเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น และเสือไซบีเรียตัวหนึ่งได้วิ่งเข้าจู่โจมผู้หญิงรายนี้ก่อนจะลากเธอไป ขณะที่ผู้หญิงอีกคนได้ออกมาจากรถเพื่อพยายามช่วยเพื่อน แต่กลับถูกเสือไซบีเรียอีกตัวขย้ำจนเสียชีวิตและลากตัวไป

ข่าวระบุว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเดินทางมากับผู้ชายคนหนึ่งและเด็กเล็กอีกคนหนึ่ง โดยทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนตัวผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นและยังคงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล โดยหลังเกิดเหตุทางสวนสัตว์ป่าถูกสั่งปิดเพื่อปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในทันที ขณะที่การ์เดียนรายงานว่า ทางสวนสัตว์แจ้งว่าเหตุที่สวนสัตว์ปิดเนื่องจากมีการพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดฝนตกหนักเท่านั้น จึงได้ปิดให้บริการเป็นเวลา 2 วัน

ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์ป่าอนุญาตให้ผู้เข้าชมสามารถขับรถเข้าไปดูสัตว์ได้เอง ตามสไตล์สวนสัตว์ซาฟารี โดยสามารถขับรถแล่นผ่านพื้นที่เปิดที่มีสัตว์ป่าอยู่และไม่ได้ถูกขังอยู่ในกรงแต่อย่างใด แต่มีข้อห้ามคือผู้ที่ขับรถเข้าไปห้ามเปิดไฟยานพาหนะอย่างเด็ดขาด

สุดสลด! เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด แม่ใจร้ายทำกับทารกหญิงแบบนี้ สังคมที่ไหนก็รับไม่ได้ !


จากกรณี เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ตรงกับวันเข้าพรรษา ได้มีผู้พบทารกเพศหญิงอายุประมาณ 4 เดือน ถูกนำมาวางทิ้งใว้ตรงทางเท้า ใกล้กับทางขึ้นศูนย์ดำรงธรรมภายในศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้นานผิดสังเกต เมื่อออกมาก็พบเด็กทารก แต่ไม่ทราบว่าใครเอามาทิ้งใว้หรือ ลืมเด็กเอาใว้  ได้มีการแจ้งรถพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มารับตัวเด็กไปดูแลตั้งแต่วัน ที่พบนั้น
วันที่ 25 กค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการไปยังชุดสายสืบให้ออกติดตามหาข่าว หญิงผู้ต้องสงสัยลักษณะตามที่กล้องวงจรปิดของศาลากลางจังหวัดเชียงราย และกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงราย ที่จับภาพได้
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณด้านหน้าศาลากลาง และบริเวณริมถนนปากทางเข้าศาลากลาง จนสามารถเห็นภาพของ หญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างผอม สวมเสื้อแขนยาวมีหมวกคลุมศรีษะได้โดยสารรถตุ๊กๆ รับจ้าง เข้ามาที่ศาลากลาง โดยให้รถตุ๊กๆ จอดรอใกล้ๆ หน้าเสาธง จากนั้นได้อุ้มเด็กห่อด้วยผ้าห่มสีนำเงิน มาวางใว้จุดที่มีการพบทารกครั้งแรก จากนั้นก็ กลับไปนั่งตุ๊กๆ ออกจากศาลากลางไป ในกล้องวงจรปิด เห็นทะเบียนรถตุ๊กๆ อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังออกติดตามหาข่าว จากกลุ่มตุ๊กๆ รับจ้าง เพื่อติดตามหาตัวแม่ พร้อมทั้งได้นำภาพ จากกล้องวงจรปิด มาเผยแพร่ เพื่อให้พลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง