วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

(คลิปเต็มไม่ตัด) สัมภาษณ์แรก! 'ปันปัน' แจงกรณีโพสไอจีด่า 'น้ำชา'





มาฟังกันชัดๆ! สัมภาษณ์แรก'ปันปัน' กรณีโพสไอจีด่า 'น้ำชา'กะxรี่ เสียงสูง โดยเธอกล่าวว่า  ไปได้ยินอะไรมาที่มันฟังแล้วแปลกๆ แต่จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ทำให้วู่วามพิมข้อความไปแบบนั้น ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องของเธอ เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ผิดที่เข้าไปยุ่งเอง ก็ได้โทรไปขอโทษเขาแล้ว ขอโทษพ่อแม่น้ำชาด้วยที่ทำให้เดือดร้อน เขายังโกรธอยู่ และบอกว่าจะดีมากถ้าเธอเข้าไปขอโทษต่อหน้าอีกที ซึ่งเธอเองก็พร้อมและเข้าใจความรู้สึกน้ำชา เพราะถ้าเป็นเธอก็คงโกรธมากเหมือนกัน แต่ประเด็นหึงแฟนเก่า มาร์ช จุฑาวุฒ นั้นคงไม่ใช่เพราะต่างก็จบกันไปนานแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันนอกจากเรื่องงาน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเธอได้ตัดสินใจออกจากต้นสังกัดนานดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรู้สึกผิดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายหลายครั้ง ครอบครัวเธอก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยเช่นกัน

ซึ่งหลังนั้น ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สาว น้ำชา ชีรณัฐ ก็ได้โพสความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวถึงกรณีที่ปันปันออกมาขอโทษ ตนพร้อมให้อภัยและลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เผยห่วงความรู้สึกพ่อกับแม่มากที่สุด



ทีมข่าว Narin Update

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สุดช๊อค! เด็กชาย 13 ปี ฆ่าโหด3 พี่น้อง 4- 7 ขวบ โหดร้ายใช้หินทุบหัว มีดปาดคอ (ชมภาพ)


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เว็ปไซด์ต่างประเทศ people มีรายงานเหตุการณ์สยองและช็อกคนทั้งประเทศ กรณีเด็กชายอายุเพียง 13 ปี ก่อเหตุฆ่าเด็ก 3 พี่น้อง อายุ 4 ขวบ 7 ขวบ และ 8 ขวบ เสียชีวิต ในมณฑลกวางตุ้ง ของประเทศจีน




จากการสอบสวนทราบว่า เด็กชายที่ก่อเหตุคือ เด็กชาย เฉิน หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 6 ขวบแล้วเข้าไปอยู่ในป่า เพราะถูกพ่อแม่ด่าอยู่บ่อยๆ กระทั่งวันที่ 18 กรกฎาคม 2559 ได้เดินทางเข้าในหมู่บ้านของเด็ก 3 คนนี้ แล้วถามเด็กว่าในบ้านมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แต่เด็กทั้ง 3 ไม่บอก จึงก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบและมีดแทงเพื่อฆ่าปิดปาก

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สลด! พ่อขืมขืน-เตะแขนลูกเลี้ยง1ขวบเศษจนหักก่อนแม่เอาน้ำร้อนลวกคอ


พ่อเลี้ยงข่มขืนเด็กขวบเศษ แม่แท้ๆ จับกรอกน้ำร้อนเจ็บสาหัส

พ่อเลี้ยงข่มขืนเด็กขวบเศษ แม่แท้ๆ จับกรอกน้ำร้อนเจ็บสาหัส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 ก.ค.) สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุมตัว นายปิยะ อายุ 21 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และนางนิด อายุ 21 ปี สัญชาติกัมพูชา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส 
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา รพ.แหลมฉบัง ได้แจ้งว่ารับรักษาอาการ เด็กหญิงเอง (นามสมมุติ) อายุ 1 ปี 5 เดือน ในสภาพมีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ แขนและขาหัก ผิวหนังบวมพอง และบริเวณปากถูกน้ำร้อนลวก อาการสาหัส 
เจ้าหน้าที่นำตัว นางนิด แม่ของเด็ก และนายปิยะ พ่อเลี้ยง ที่ทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มาสอบสวน จนทั้งคู่รับสารภาพว่า ในวันที่  21 ก.ค. ขณะนางนิดกลับจากไปซื้ออาหารกลางวัน พบว่านายปิยะนอนอยู่ที่ห้อง และลูกสาวมีเลือดออกที่อวัยวะเพศ 
ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. นายปิยะได้ทำร้ายเด็กหญิงเอง นางนิดจึงเข้าไปห้าม จนนายปิยะกระชากแขนเด็กอย่างแรง แต่นางนิดพยายามต่อสู้จนคว้าลูกกลับมาได้ โดยไม่รู้ว่าลูกแขนหัก และต่อมาในวันที่ 26 ก.ค. ขณะที่เด็กหญิงเอ ร้องไห้ นางนิดได้ต้มน้ำร้อนแล้วรอกปากให้กิน โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นน้ำร้อน จนเด็กหญิงเอ แน่นิ่งจึงนำไปส่งรพ.
จากการสอบสวน นางนิด เล่าว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจเพราะไม่รู้ว่าน้ำร้อน ส่วนที่ลูกแขนขาหักเพราะถูกนายปิยะทำร้าย ตนพยายามช่วยแล้ว ทั้งนี้ รู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด และจะไม่ทำอีก 
ในขณะที่ นายปิยะ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า ตนเองทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนเองไม่ได้ทำอะไรมาก และขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา อยากขอโทษน้อง ขอให้น้องปลอดภัย 
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วินาทีระทึก!! เสือขย้ำหญิงจีนที่สวนสัตว์กรุงปักกิ่ง เสียชีวิต 1 เจ็บ 1 กล้องวงจรจับภาพ (ชมคลิป)


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมว่า เกิดเหตุเสือในสวนสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ฆ่าสาวจีนตายรายหนึ่งและทำให้บาดเจ็บอีกรายหนึ่ง ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นจังหวะที่หญิงคนหนึ่งเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะถูกเสือตัวใหญ่วิ่งมาขย้ำและลากหญิงคนดังกล่าวออกไปจากมุมกล้อง

โดยเว็บไซต์ไชน่านิวส์ รายงานว่า เหตุเกิดขึ้นที่สวนสัตว์ป่าปักกิ่ง ป่าต้าหลิง ไวด์ไลฟ์ เวิลด์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หลังจากผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกจากรถที่นั่งอยู่เนื่องจากเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น และเสือไซบีเรียตัวหนึ่งได้วิ่งเข้าจู่โจมผู้หญิงรายนี้ก่อนจะลากเธอไป ขณะที่ผู้หญิงอีกคนได้ออกมาจากรถเพื่อพยายามช่วยเพื่อน แต่กลับถูกเสือไซบีเรียอีกตัวขย้ำจนเสียชีวิตและลากตัวไป

ข่าวระบุว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเดินทางมากับผู้ชายคนหนึ่งและเด็กเล็กอีกคนหนึ่ง โดยทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนตัวผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นและยังคงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล โดยหลังเกิดเหตุทางสวนสัตว์ป่าถูกสั่งปิดเพื่อปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในทันที ขณะที่การ์เดียนรายงานว่า ทางสวนสัตว์แจ้งว่าเหตุที่สวนสัตว์ปิดเนื่องจากมีการพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดฝนตกหนักเท่านั้น จึงได้ปิดให้บริการเป็นเวลา 2 วัน

ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์ป่าอนุญาตให้ผู้เข้าชมสามารถขับรถเข้าไปดูสัตว์ได้เอง ตามสไตล์สวนสัตว์ซาฟารี โดยสามารถขับรถแล่นผ่านพื้นที่เปิดที่มีสัตว์ป่าอยู่และไม่ได้ถูกขังอยู่ในกรงแต่อย่างใด แต่มีข้อห้ามคือผู้ที่ขับรถเข้าไปห้ามเปิดไฟยานพาหนะอย่างเด็ดขาด

สุดสลด! เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด แม่ใจร้ายทำกับทารกหญิงแบบนี้ สังคมที่ไหนก็รับไม่ได้ !


จากกรณี เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ตรงกับวันเข้าพรรษา ได้มีผู้พบทารกเพศหญิงอายุประมาณ 4 เดือน ถูกนำมาวางทิ้งใว้ตรงทางเท้า ใกล้กับทางขึ้นศูนย์ดำรงธรรมภายในศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้นานผิดสังเกต เมื่อออกมาก็พบเด็กทารก แต่ไม่ทราบว่าใครเอามาทิ้งใว้หรือ ลืมเด็กเอาใว้  ได้มีการแจ้งรถพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มารับตัวเด็กไปดูแลตั้งแต่วัน ที่พบนั้น
วันที่ 25 กค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการไปยังชุดสายสืบให้ออกติดตามหาข่าว หญิงผู้ต้องสงสัยลักษณะตามที่กล้องวงจรปิดของศาลากลางจังหวัดเชียงราย และกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงราย ที่จับภาพได้
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณด้านหน้าศาลากลาง และบริเวณริมถนนปากทางเข้าศาลากลาง จนสามารถเห็นภาพของ หญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างผอม สวมเสื้อแขนยาวมีหมวกคลุมศรีษะได้โดยสารรถตุ๊กๆ รับจ้าง เข้ามาที่ศาลากลาง โดยให้รถตุ๊กๆ จอดรอใกล้ๆ หน้าเสาธง จากนั้นได้อุ้มเด็กห่อด้วยผ้าห่มสีนำเงิน มาวางใว้จุดที่มีการพบทารกครั้งแรก จากนั้นก็ กลับไปนั่งตุ๊กๆ ออกจากศาลากลางไป ในกล้องวงจรปิด เห็นทะเบียนรถตุ๊กๆ อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังออกติดตามหาข่าว จากกลุ่มตุ๊กๆ รับจ้าง เพื่อติดตามหาตัวแม่ พร้อมทั้งได้นำภาพ จากกล้องวงจรปิด มาเผยแพร่ เพื่อให้พลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง

เพิ่งแต่งกันไป ทนไม่ไหวซะแล้ว !! เอ้กเมียกัปตัน ขอแยกอยู่ เพราะพระเอกทำแบบนี้. .



แต่อย่าพึ่งตกอกตกใจไปจ้าาา เพราะเหตุผลที่สาว เอ้ก หนีสามีอย่าง กัปตัน กลับมานอนบ้านนั้นไม่ได้เป็นการทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่สาวเจ้าดันเกิดอาการคิดถึงบ้านขึ้นมา เลยขอตัวแยกกันอยู่สักแปปเพื่อกลับมาอ้อนคุณแม่ แหมๆ ทำเอาแฟนคลับตกใจนึกว่าเกิดอะไรขึ้นสะอีก แต่งงานแยกไปอยู่กับสามีแต่เกิดอาการลูกแหง่ขึ้นมานี่เอง เป็นเรื่องธรรมดาเนอะออกไปอยู่ที่อื่นก็ใจหายไม่เหมือนอยู่ที่บ้านตัวเอง
ห่างกันสักพักค่ะพี่ตัน

ด่วน! เหตุกราดยิงไนท์คลับในฟลอริดา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

กราดยิงไนท์คลับในฟลอริดา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

คนร้ายกราดยิงไนท์คลับในฟอร์ท ไมเออร์ สหรัฐฯ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุกราดยิงที่ไนท์ คลับ ชื่อ Club Blu ในฟอร์ท ไมเออร์ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 17 คน


ทั้งนี้ ไนท์คลับดังกล่าวเป็นช่วง Teen Night ซึ่งมีวัยรุ่นอายุน้อยสุดคือ 13 ปี เข้าร่วมงาน พยานในเหตุการณ์เล่าว่า เขาได้ยินเสียงปืนดังราว 30 นัด ผู้คนต่างกรีดร้อง และพยายามวิ่งหาที่หลบ ในขณะที่รถพยาบาลและรถตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เบียร์ เดอะวอยซ์ พักแบ๊วโพสต์ภาพชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่


เป็นอีกหนึ่งสาวที่หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา เบียร์ เดอะวอยซ์ โดยสาวคนนี้นอกจากหน้าหวานๆ ยิ้มน่ารัก เธอยังเป็นผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่น่าค้นหา
เรียกว่าเซ็กซี่ไม่เบาเลยทีเดียว สำหรับ เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฎมงคล หรือ เบียร์ The Voice สาวน้อยหน้าใส หวานใจหนุ่ม คัตโตะ วงลิปตา หลังจากที่เมื่อครั้งก่อนเบียร์ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำให้กับนิตยสารชื่อดัง ล่าสุดเบียร์ไปเที่ยวทะเลและโพสต์ภาพสวมชุดว่ายน้ำ งานนี้บอกเลยว่าถึงแม้เบียร์จะเป็นสายแบ๊ว แต่หากจะรับงานเซ็กซี่บ้างก็ไม่ผิดเพราะขนาดถ่ายภาพไปเที่ยวธรรมดายังเซ็กซี่มีเสน่ห์ได้ขนาดนี้

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

ระวังไว้ !! หนุ่มฝากเตือนภัย อย่าใส่สิ่งนี้ไว้ในรถ เวลาเดินทาง ไม่งันเจอแบบนี้ ไม่รู้ตัว !??

ระวังไว้ !! หนุ่มฝากเตือนภัย อย่าใส่สิ่งนี้ไว้ในรถ เวลาเดินทาง ไม่งันเจอแบบนี้ ไม่รู้ตัว !??


กลายเป็นเรื่องราวที่ใครหลายคนฟังแล้วต้องตกใจ เมื่อเฟสบุ๊ค จตุรงค์ สุขเอียด ได้แชร์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวว่า

       "ผมผ่านด่านแถวๆพะเยามา คู่หูแวะห้องน้ำเห็นตำรวจหลายนายรุมไขประตูรื้อของในรถทั้งคัน แล้วพาชายคนขับกับเพื่อนไปห้องน้ำ ด้วยว่างจึงไปถามว่า สงสัยมียาหรือครับ ตำรวจเงยหน้ามอง บอก อื้อ ผมก็ถามผู้หญิง เขาว่ามาจากเชียงรายไปกรุงเทพ แล้วดูสภาพ ก็ปกติ จึงบอกว่า ถ้าไม่มีอะไร ตำรวจจะค้นทำไมมาก เธอ ว่า ไม่รู้เหมือนกัน ทุกด่านเลย ก็เอามือถือถ่ายเล่นๆ เท่านั้น ร.ต.ท.นายหนึ่งก็ออกมาจากป้อม ไม่พอใจถามว่า

คุณถ่ายอะไร ผมตอบว่า ถ่ายตำรวจทำงานครับ เขา ไม่พอใจต่อว่า แล้วขออนุญาติหรือยัง ผมก็ปรี๊ด ต้องขออนุญาติถ่ายภาพกับมือถือด้วยหรือครับ ร้อยโท บอกถ่ายไม่ได้ คุณเกี่ยวอะไร ผมบอกผ่านมาแล้ว ก็ถ่ายไว้ ถ้าพบยาเสพติดจะได้ทำข่าวว่า พบการลักลอบขนยาเสพติด จากนั้นคู่หูผมเดินมา บอกไปว่ามาจากทำข่าวครับผ่านมา ผมก็บอกว่า ทำไมประชาชนจะถ่ายภาพ จนท.ทำงานไม่ได้ ถ้าบริสุทธ์ เขาก็โวยวายว่า เป็นสิทธิ ผมถามว่า สิทธิอะไร ประชาชน

ก็มีสิทธิปกป้องตัวเองเหมือนกัน แล้ว ผมจะรอจนกว่า จะค้นเสร็จว่า พบไหม ถ้าพบเอามาจากไหนอย่างไร ผมจะอยู่เป็นเพื่อนจนจบ แล้ว ถ้าพบผมจะไปเอากล้องกับบัตรนักข่าวมาแสดง ทำข่าวผลงานตำรวจชุดนี้ แต่ถ้า เขา ถูกปรักปรำผมก็จะเป็นพยานให้เขา ชายคนขับออกมา แล้วคงจำผมได้ ผมบอกว่า ผมไม่ได้กีดขวางการทำงานแน่ๆ เพราะอยู่ห่างๆกัน ผู้ชายคนขับ เดินไปหาร้อยโทคนเดิม บอกว่า พี่ยังไม่ได้ตรวจฉี่ผมเลยนะครับ เขาตอบแบบหัวเสียว่า ไม่ตรวจแล้ว ตำรวจที่ค้นๆก็กลับมา ผมบอกตำรวจว่าจะถ่ายรูปผมคืนก็ได้นะ จะได้หายกัน เขาไม่ตอบผม แล้วบอกว่า แล้วคุณถ่ายแบบนี้ทำไม

ผมบอกว่า เวลาผมถ่ายเล่นๆกับมือถือ แบบนี้ เขาเรียกว่าเชลฟี่ครับ เซลฟี่ เขาเอาไว้ลงเฟชครับ ไม่ได้ลงข่าว ตำรวจค้อนขวับไป คนขับรถก็ยกมือสวัสดี เท่านั้น ผมจึงรู้ว่า ทำไม จึงถูกรื้อค้นมากมาย ก็เพราะเขาสวมสร้อยข้อมือทองคำเส้นหนาใหญ่มากนั่นเอง จึงกลายเป็นพิรุธหรืออะไร ให้คิดได้ ผมแนะนำให้ถอดออกไม่ทัน แต่ขอเตือนท่านต่อไป เดินทางไกล อย่า สวมของมีค่า หรือ ทองคำ ให้เป็นที่สะดุดตา เพราะจะเป็นอันตรายกับตัวท่านเอง ท่านเจอโจรกลางถนนน้อยกว่าด่านแน่นอน เชื่อผม"

ที่มา : เฟสบุ๊ค จตุรงค์ สุขเอียด




ทีมา : http://www.siamdrama.com/view-108.html

เคล็ดลับ กินให้พุงยุบใน 1 สัปดาห์!!!!


มีสาวๆ หลายคนที่แขนขาเรียวเล็ก แต่มีปัญหากับ “พุง” ที่เก็บไม่อยู่จริงๆ จะใส่เสื้อเอวลอยก็ไม่งาม จะรัดรูปก็ปลิ้นเห็นๆ แบบนี้ต้องหันมาดูตัวเองกันแล้วล่ะค่ะ ว่า อะไรทำให้พุงพลิ้วได้ขนาดนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านบอกมาว่า “สาเหตุของการลงพุง นั้นมาจาก 3 ปัจจัย” ที่สะสมพุงให้เราทุกวันคืน นั่นคือ
กินแป้ง
นอนดึก
นั่งนาน
ดังนั้นภายใน 1 สัปดาห์ เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ + สูตรเร่งรัด คือ เพิ่มอาหารตัวช่วยเข้าไปในแต่ละมื้อ มาเริ่มเข้าสู่โปรแกรมลดพุงกันเลยยย!!
วันที่ 1 ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำ3 แก้ว แล้วรีบรับประทานอาหารภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น
อาหารเช้า : ไข่ลวก 2 ฟอง ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น มะเขือเทศสดแช่เย็นเจี๊ยบ 1 ผล
ดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตร ตลอดวัน
มื้อเที่ยง : เมนูแนะนำคือ เกาเหลาที่ปราศจากเนื้อสัตว์ติดมัน หรือยำวุ้นเส้น งดแป้งเด็ดขาด ทานฝรั่งให้อยู่ท้องมากขึ้นและได้วิตามินซีสูงด้วย มื่อนี้ควรมีเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการทอดและไม่ติดมัน ถ้าไปทำงาน ตอนพักเที่ยงให้เลือกเมนูไกลออฟฟิศสักหน่อย จะได้ใช้พลังงานให้เยอะเข้าไว้
มื้อเย็น : ทานผักสดจิ้มน้ำพริกหรือพวกเมี่ยงปลาเผา และไม่ต้องทานเยอะเพื่อสร้างความเคยชินของกระเพาะ
วันที่ 2 -วันที่ 7 ปฏิบัติตัวให้เหมือนกับวันแรก ค่อยๆ ลดอาหารให้น้อยลง เพราะความอยากอาหารจะน้อยลงเรื่อยๆ
อาหารต้องห้าม : แป้งขาวทั้งข้าว ขนมปัง และอาหารเส้นทุกประเภท ให้เลือกรับประทานเฉพาะข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีตในมื้อเช้า ให้น้อยที่สุดเนื้อสัตว์ติดมันมากเกิน ของทอด ขนมขบเคี้ยวที่เป็นแป้ง ให้เลือกทานพวกถั่วลิสงแทน ของหวาน
อาหารเสริม :
1. ผัก ผลไม้ อย่างแอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง มะเขือเทศ มะละกอ แตงโม ชมพู่ ฟักทอง
2. ถั่วต่างๆ ได้โปรตีนและน้ำมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ถั่วยังทำให้อิ่มง่าย
3. เห็ด มีโปรตีน รสชาติดี ช่วยให้อิ่มง่ายขึ้นโดยไม่อ้วน
4. เมล็ดแมงลัก อาหารสุดคลาสสิกที่ทำให้อิ่มง่ายแบบไม่อ้วน มีไฟเบอร์เยอะ และวิตามินเอสูงมาก
5. ป๊อปคอร์นแบบไม่มีเนย น้ำตาลคาราเมล ช่วยให้อิ่ม ไม่อ้วน และได้ประโยชน์จากไฟเบอร์
6. ไข่ เมื่อหิวให้เลือกทานไข่ต้มหรือไข่ลวกเลยค่ะ อิ่มแน่และได้คุณค่าสูง
7. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ประโยชน์ล้ำและอื่มท้องได้แบบเบาๆ สำหรับวันที่ไม่หิวแต่ต้องกิน
ข้อที่ต้องปฏิบัติสำคัญในแต่ละวัน
ดื่มน้ำหลังตื่นนอน 3 แก้ว
ดื่มน้ำในแต่ละวันให้มาก
เมื่อหิวให้ดื่มน้ำ
ใช้เครื่องทุ่นแรงในชีวิตให้น้อยลง เดินให้มากขึ้น
บริหารร่างกายง่ายๆถ้ามีเวลา วันละ 20-45 นาที
ลุกเดินจากโต๊ะทำงานให้มากขึ้น
ทานให้ครบทุกมื้อ พยายามอย่าลดมื้อของอาหาร
ไม่นอนดึก
เมื่อทำครบ 7 วันแล้ว ลองมาเล่าให้ฟังกันบ้างว่า พุงยุบไปแค่ไหน บอกเลยว่านอกจากพุงจะยุบแล้ว เราจะเคยชินกับวิถีชีวิตแบบใหม่ ที่ไม่สะสมพุงเพิ่มเข้ามาอีกด้วยค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th http://www.cosmenet.in.th
ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตายยกคัน6ศพ ปิกอัพพุ่งข้ามเลนประสานงารถ6ล้อ สลด!ทารกดับในอ้อมอกแม่(มีคลิป)


เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 23 ก.ค. พ.ต.ท.พันธ์ยศ  พีระยศวริศ พนักงานสอบสวน สภ.สีดา อ.สีดา จ.นครราชสีมา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิตคาที่หลายราย บริเวณช่วงหลักกิโลเมตรที่ 241 ถนนมิตรภาพ เลยแยกสีดา มุ่งหน้าไปขอนแก่น บ้านเมืองสูง หมู่ 8 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา ฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลัง


  ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุดีแมกซ์ สีดำ 1 ฒค 5436 กทม. พุ่งชนประสานงากับรถบรรทุกหกล้ เลขทะเบียน 85 6290 นครราชสีมา สภาพพังยับเยิน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างงัดแงะซากรถนำผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากรถปิกอัพ


  โดยพบภาพสุดสลด เพราะผู้โดยสารภายในปิกอัพเสียชีวิตคาที่ทั้ง 6 ราย เป็น เด็ก 3 คน แยกเป็นวัยแรกเกิด 1 รายเสียชีวิตในอ้อมกอดหญิงวัยกลางคน ,เด็กหญิง 1 ราย เด็กชาย 1 ราย หญิงวัยกลางคน 2 ราย ชายวัยกลางคน 1 ราย คาดว่าเป็นคนขับรถปิกอัพ ส่วนคนขับรถบรรทุกเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกขาหัก


 จากการสอบถาม นายวิสันต์ บัวกอง คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เบื้องต้นทราบว่า เห็นรถกระบะขับรถมาจากทาง จ.ขอนแก่น มุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา ขณะขับรถมาด้วยความเร็วอยู่เลนขวาสุด จู่ ๆ รถกระบะก็เกิดเสียหลักตกร่องกลางถนน ก่อนจะพุ่งข้ามเลนมาชนประสานงากับรถบรรทุก 6 ล้อของตนที่กำลังวิ่งสวนทางมาอย่างรุนแรง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้คนขับและผู้ที่โดยสารมากับรถกระบะเสียชีวิตทั้งคันดังกล่าว


  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนขับรถกระบะ น่าจะกำลังพาคนในครอบครัว เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ อาจจะเกิดความเพลียจากการขับรถ ทำให้หลับใน หรืออีกสาเหตุอาจจะมีคนหรือสิ่งของตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ทำให้คนขับเกิดอาการตกใจ จนทำให้รถกระบะเสียหลักตกร่องกลางถนน แต่เนื่องจากความเร็วของรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ทำให้รถพุ่งข้ามเลนมาชนประสานงากับรถบรรทุก 6 ล้อ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้คงจะต้องมีการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป  


ล่าสุดตำรวจตรวจสอบผู้เสียชีวิตทราบชื่อแล้ว 3 ราย นายลำมุทร บุตรแสนคม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่5/1 หมู่ที่ 2 ตำบลอินทร์แปลง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร, นางสาวพรทวี คำขนาน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่2 ตำบลอินทร์แปลง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร และนางรัตนาภรณ์ ชูคงคา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/42 ซอยเพิ่มสิน 24/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

รวบแล้ว! "เณรคำ" สหรัฐฯเตรียมส่งกลับไทย






"เณรคำ" ไม่รอด จนมุมแล้ว ที่สหรัฐ เตรียมส่งตัวกลับไทยให้ "ดีเอสไอ"ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ฉ้อโกง พรากผู้เยาว์ ขณะที่ความเคลื่อนไหวนายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ ที่กลับมาบ้านปากพนัง นครศรีธรรมราช ลูกศิษย์ทราบข่าวต่างมาหากราบไหว้ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์จะกลับสหรัฐวันที่ 7 ส.ค. ก่อนมาใหม่วันที่ 14 ต.ค. ไปพักกาญจนบุรี ลูกศิษย์เตรียมจัดงานวันเกิดให้




เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ ในวัย 64 ปี ที่มหาเถรสมาคมมีมติให้สึก ภายหลังต้องอธิกรณ์ ร้ายแรงเรื่องสีกา ซึ่งเดินทางจากสหรัฐอเมริกากลับมาเยี่ยมบ้านเกิด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยพักอาศัยอยู่กับนางวรรณี ละอองสุวรรณ พี่สาว เดินทางไปยังร้านอาหารบ้านชายคลอง ในตลาดปากพนัง เป็นของนายชัยณรงค์ สวัสดีนฤนาท อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากพนัง ลูกศิษย์คนสนิท เพื่อรับประทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ โดยมีผู้ติดตามจำนวนมากที่ยังเคารพและกราบไหว้ อีกทั้งยังมีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งเดินทางมาจาก จ.จันทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่ทราบข่าวการกลับมา ของนายวินัย ต่างเดินทางมาเยี่ยมเยียน

นายวินัยให้สัมภาษณ์ถึงการกลับมาประเทศไทยอีกครั้งว่า ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะเดินทางไปกรุงเทพฯ และพักที่ จ.นนทบุรี จากนั้นวันที่ 7 ส.ค. จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา และจะกลับประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 14 ต.ค. โดยจะไปพักที่ จ.กาญจนบุรี เพราะจะมีลูกศิษย์ร่วมกันทำบุญวันเกิดให้ หลังไม่ได้เจอกันเป็นเวลากว่า 20 ปี 

"ปัจจุบันมีความสุขสบายดี มีเพียงร่างกายที่มีผลพวงจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากอุบัติเหตุที่สหรัฐอเมริกา เดินไม่ค่อยสะดวกมากนัก และฝากให้ผู้ที่เคารพศรัทธาว่าขอให้มั่นใจในการทำความดี ยิ่งขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี ต้องมีความอดทน เพียรพยายาม อะไรทำแล้วเจริญให้พัฒนาตนเองให้มากขึ้น อะไรช่วยเหลือผู้อื่นได้ก็ควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อาศัยธรรมะเป็นที่พึ่ง คิดดี พูดดี ทำดี อะไรๆ ก็ดีหมด" อดีตพระยันตระกล่าว

วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่าได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาว่า จับกุมตัวนายวิรพล สุขผล หรือเณรคำได้แล้ว เป็นการประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ดีเอสไอ และทางการสหรัฐ โดยนายวิรพลกระทำความผิดในประเทศไทย ข้อหาฟอกเงิน ฉ้อโกง และพรากผู้เยาว์ ขณะนี้ทางการสหรัฐควบคุมตัวเณรคำไว้แล้ว อยู่ระหว่างการประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต้องรอศาลสหรัฐพิจารณาเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คาดใช้เวลาสักระยะหนึ่ง 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจที่วัดป่าขันติธรรม หรือในชื่อใหม่คือ วัดสามัคคิยาราม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่เณรคำเคยพักอาศัยอยู่ พบว่าเงียบเหงามาก ไม่มีพุทธศาสนิกชนมาทำบุญ จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงระบุว่า ปัจจุบันมีพระอยู่เพียง 4 รูปเท่านั้น จะเก็บตัวเงียบภายในกุฏิ ไม่ค่อยออกมาเดินภายในบริเวณวัด 

ส่วนที่บ้านเลขที่ 999/10 บ้านทรายมูล หมู่ 10 ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี บ้านพักเนื้อที่ 150 ตารางวา ของพ่อแม่เณรคำนั้น ปัจจุบันมีนายวิจารณ์ พี่ชายต่างพ่ออยู่เฝ้าบ้านเพียงลำพัง เนื่องจากนายรัตน์ และนางสุดใจ สุขผล พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพี่ต่างพ่ออีก 2 คนก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน สำหรับน้องชายที่เกิดกับพ่อคนเดียวกันไปทำไร่มันสำปะหลังอยู่ต่างจังหวัด ไม่กลับมาที่บ้านหลังนี้นานแล้ว ขณะที่อาคาร 2 ชั้นที่ติดกับบ้านพัก ดีเอสไอสั่งอายัดไว้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเณรคำ ก็ถูกทิ้งร้างเช่นกัน

ตร.ลุยล้างบาง! 'แอพโชว์วีเจสาว' ชี้อาจเข้าข่ายหลอกลวง อนาจาร



ตร.ลุยล้างแอพฯ โชว์วีเจ. หลังพบมีอีกอื้อ แถมมีห้อง 18+ ผู้เข้าชมต้องเสียค่าบริการเป็นบัตรเติมเงิน แล้วสามารถเอาไปแลกของขวัญให้วีเจ.ได้ เร่งเก็บข้อมูลว่าเข้าข่ายหลอกลวง หรือผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ส่วนเรื่องแอพฯ ไอโชว์ บก.ปอท.เร่งตรวจสอบว่าเข้าข่ายลามกอนาจาร หรือหลอกลวง หรือไม่ ด้านบริษัทเปิดแถลงพร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ยันทำธุรกิจถูกต้อง ไม่มีโป๊เปลือยแน่นอน ส่วนผู้เสียหายขอให้เข้ามาพูดคุย ยันเงินเข้ามาในระบบแอพฯ ไม่ถึง 1.2 ล้าน ตามที่เป็นข่าว



เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนางศิริการต์ ศิรสิทธิ์ดำรงกิจ แจ้งความจับลูกชายนายระพีพัชร ศิรสิทธิ์ดำรงกิจ หลังมีการโอนเงินให้วีเจ.โฟว์ ของแอพ พลิเคชั่น ไอโชว์ กว่า 1.2 ล้านบาท ว่า ล่าสุด ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม (ปอท.) โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเชิญบริษัทที่ก่อตั้งแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมาให้ข้อมูล อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดกับบริษัท คงต้องดูรายละเอียดว่าจริงๆ แล้ว ในแอพพลิเคชั่นนี้ที่มีลูกเล่นไม่เหมือนกับแอพพลิเคชั่นอื่นทั่วไป โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการกระทำ ความผิดที่อาศัยเทคโนโลยีในลักษณะนี้ สำหรับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อโดยที่รู้เท่าถึงการณ์ 



ผู้สื่อข่าวถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีมาตรการเข้มงวดแอพโชว์ต่างๆ อย่างไร พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเฝ้าระวังและเข้มงวดอยู่แล้ว พร้อมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยเทคโนโลยีที่มีลักษณะโชว์วาบหวิวต่างๆ 

พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ปอท. เผยว่า ขณะนี้สั่งให้เจ้าหน้าที่ บก.ปอท. เข้าไปตรวจสอบวิธีการสมัคร วิธีการเล่น และระบบทั้งหมดของแอพพลิเคชั่น "ไอโชว์" ว่าเข้าข่ายการกระทำผิดข้อไหน รวมทั้งตรวจสอบว่า มีการให้วีเจ.สาว เปลื้องผ้า หรือใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น จะเข้าข่ายการกระทำความผิด ข้อหานำเข้าสิ่งลามกอนาจาร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ ส่วนการซื้อของขวัญ หรือของรางวัลเพื่อเป็นของกำนัลแก่วีเจ.สาวนั้น ต้องดูว่าเป็นการให้ด้วยการสมัครใจหรือถูกหลอกให้ซื้อ และขอเวลาในการตรวจสอบสักระยะ ทั้งนี้ทางบก.ปอท.ไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะไอโชว์นั้น แต่ตรวจสอบแอพลิเคชั่น หรือโปรแกรมอื่นๆ ด้วย หากพบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพ์ 

ที่สำนักงานไอโชว์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์จำกัด เลขที่ 446/73 ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2 เอ อาคารปาร์คอเวนิว2 ถ.สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. นายทักษิณ จันทรารักษ์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและกฎหมาย พร้อมด้วยวีเจ.โฟร์, นายสุรศักดิ์ มุสิชาติ โปรเจ็กต์เมเนเจอร์, น.ส.อัญชลี คำดี โซเชี่ยล มีเดีย ดีพาร์ตเมนต์ และนายวชิระ อู่อรุณ โปรดักส์ เมเนเจอร์ แถลงชี้แจงการทำงานของแอพพลิเคชั่นไอโชว์ (iShow) 



นายทักษิณกล่าวว่า ไอโชว์ทำงานคือเป็นเหมือนพื้นที่ที่ให้คนมีความสามารถเข้ามาแสดงออกกัน มีทั้งสายวีเจ.ทอล์ก วีเจ.สายแดนซ์ วีเจ.สายร้องเพลง วีเจ.สายเล่าเรื่อง วีเจ.สายเซ็กซี่ และอีกหลายแบบ แต่ไม่มีการแสดงออกในการลักษณะโป๊ เปลือย อย่างแน่นอน ส่วนที่ปอท. จะตรวจสอบเนื่องจากเกรงมีการฉ้อโกง บริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ส่วนเงินที่นายระพีพัชรระบุว่า นำไปซื้อไอเทมของแอพฯ มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท นั้นคงไม่ถึง ต้องตรวจสอบก่อน รวมทั้งเรื่องจะคืนเงินหรือไม่ ต้องพูดคุยกันก่อนเช่นกัน แต่ล่าสุดยังไม่มีการติดต่อจากคู่กรณีเลย

นายทักษิณกล่าวว่า สำหรับการทำงาน การคัดวีเจ. จะรับสมัครผ่านทางอินเตอร์เน็ต จากนั้นจะส่งไปประจำสังกัดวีเจ.ต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีกว่า 30 สังกัด มีวีเจ.กว่า 1,000 คน และแต่ละสังกัดจะมีกฎระเบียบในแต่ละสังกัดด้วย เช่นห้ามคุยแบบส่วนตัวกับผู้ที่เข้ามาชมขณะออกอากาศ ถ้าพบผิดกฎจะยุติการออกอากาศทันที ส่วนใหญ่ทำงานลักษณะฟรีแลนซ์ และจ่ายค่าจ้างจากส่วนแบ่งที่ผู้ชมซื้อไอเทมเข้ามาให้กำลังใจ 

ส่วนกรณีของวีเจ.โฟร์นั้นเราแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ในเรื่องงานนั้น วีเจ.โฟร์ทำงานเป็นหัวหน้าสังกัดหนึ่งในบริษัท ตั้งแต่ทำงานไม่เคยทำผิดกฎระเบียบ ขยัน ทำงานสุจริตเหมือนคนทั่วไป ขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้มีการพักงานแต่อย่างใด ส่วนเรื่องนั้นทางบริษัทจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่จะเรียกมาพูดคุยกันอีกที เพราะเรื่องดังกล่าวก็ส่งผลกับบริษัทด้วย 



นายสุรศักดิ์กล่าวว่า การทำงานของโปรแกรมไอโชว์ก็เหมือนกับการซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ต เมื่อสมาชิกเข้ามาชม เมื่อถูกใจหรืออยากให้กำลังใจวีเจ.ก็สามารถซื้อไอเทมส่งให้วีเจ.ได้ ซึ่งแต่ละไอเทมจะมีจำนวนเงินระบุบอกหน่วยเป็นตัวซี เช่น 100 ซี เท่ากับ 1 บาท ทุกครั้งที่ผู้ชมจะส่งไอเทมให้วีเจ.นั้นโปรแกรมจะขึ้นเตือนว่ากำลังจะส่งไอเทมให้วีเจ.เพื่อให้ผู้เข้าชมยืนยันการส่งอีกครั้งป้องกันการกดผิด ซึ่งสมาชิกที่สมัครเข้ามานั้นมีทั้งสมาชิกที่เสียเงินและสมาชิกที่ชมฟรี โดยทั้ง 2 อย่างจะมีสิทธิ์ในการเข้าชมวีเจ.ได้ทุกห้องเหมือนกัน แต่สมาชิกที่เสียเงินจะแบ่งออกเป็นหลายระดับ เป็นการแบ่งเกรดผู้เข้าชม ซึ่งในแอพฯ จะขึ้นโชว์สัญลักษณ์ว่าอยู่ในระดับไหน ขึ้นอยู่กับเงินที่สะสมอยู่ในระบบ เปรียบเสมือนการแต่งตัวให้ตัวเองดูเท่ขึ้น สมาชิกแต่ละระดับนั้นจะมีความพิเศษคือสามารถคุยส่วนตัวกับวีเจ.ได้ สามารถซ่อนตัวไม่ให้ใครเห็นได้ สามารถส่งไอเทมในหมวดวีไอพีได้ ทั้งนี้การสมัครสมาชิกนั้นคนหนึ่งสามารถมีได้หลายแอ็กเคาต์ได้ 



ด้านวีเจ.โฟร์ชี้แจงว่า รู้จักนายระพีพัชร ตั้งแต่เม.ย. 2558 พูดคุยกันเมื่อมี.ค.59 เขาเป็นคนที่เข้ามาเล่นแอพฯ ไอโชว์ จากนั้นก็พบว่ามักจะส่งของขวัญให้วีเจ.หลายๆ คน จนกระทั่งได้คุยกับเขาเป็นพิเศษ ก็ส่งของขวัญมาให้มากขึ้น จนคบหากันไปมาหาสู่กันที่บ้านฝ่ายชาย ส่วนเรื่องเงิน 1.2 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2559 นายระพีพัชร โอนเงินผ่านบัญชีตนเพื่อเติมเงินซื้อของขวัญให้กับวีเจ. รวมแล้วทั้งหมด 481,870 บาท รวมถึงเงิน 99,880 บาท ที่นายระพีพัชรโอนมาช่วยค่าดาวน์รถ ซึ่งหลังเกิดเหตุก็โอนคืนให้แม่นายระพีพัชรไปแล้ว เงินที่เหลือโอนเข้าบริษัท 261,500 บาท เหลือที่เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างคุยกัน 100,490 บาท ซึ่งไม่เคยเรียกร้อง แต่คิดว่าเป็นเงินที่นายระพีพัชร ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวแล้วโอนให้โดยเสน่หา จึงขอยืนยันว่าเงินทั้งหมดมีเท่านี้ไม่ถึง 1.2 ล้านบาท

วีเจ.โฟร์กล่าวว่า สำหรับความสัมพันธ์ ตอนนี้ไม่ได้คุยกันแล้ว แต่ยอมรับว่ายังคงเป็นห่วง เพราะฝ่ายชายถูกทัณฑ์บนห้ามติดต่อตน ไม่งั้นอาจถูกจับตามที่แม่ของเขาขู่ไว้ ทั้งนี้ที่ไม่ได้คุยกันไม่ใช่เพราะเขาหมดเงินแล้วตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบนอกจากแอพฯ ไอโชว์ (iShow) แล้วยังมีแอพพลิเคชั่นในลักษณะดังกล่าวเพิ่มเติมอีกสองค่าย โดยเป็นค่ายชื่อดังหนึ่งค่าย และอีกหนึ่งค่ายที่ให้เปิดบริการใหม่ โดยมีลักษณะการใช้งานได้ในหลายรูปแบบทั้งจากคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ผู้ใช้บริการสามารถเลือกชมได้ทั้งการเต้น ร้องเพลง หรือการแสดงความสามารถต่างๆ ของเหล่าวีเจ. และเน็ตไอดอลแบบสดๆ ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการโชว์ในลักษณะของการเต้นวาบหวิวในห้องเฉพาะที่ระบุว่า เป็นห้องสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จึงสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถเข้าชมได้ทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าบริการ โดยการเสียค่าบริการนั้นจะเป็นในรูปแบบของการเติมเงินผ่านบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือจากนั้นผู้ใช้บริการจะนำไปใช้แลกเป็นของขวัญที่มีอยู่ในโปรแกรมดังกล่าวที่มูลค่าต่ำสุดอยู่ที่ 2 บาท ไปจนถึงมูลค่าสูงสุดที่ 9,000 บาท เมื่อผู้ใช้บริการพอใจในรูปแบบการแสดงของเน็ตไอดอลก็จะส่งของขวัญผ่านโปรแกรมไปให้ ต่อจากนั้นเน็ตไอดอลจะนำไปแลกเป็นตัวเงินอีกครั้งต่อไป ทั้งนี้ เน็ตไอดอลที่เป็นที่นิยมสามารถสร้างได้ถึงหลักแสนบาทต่อเดือน ซึ่งอยู่ระหว่างตร.กำลังรวบรวมข้อมูลดูว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่

รวบแล้ว! แก๊ง10โจ๋ ลวงดญ.จากงานบวชมารุมโทรม ปวีณา เร่งช่วยเหลือ



ปวีณาจี้คดี 10 โจ๋รุมข่มขืนมาราธอน ด.ญ.วัย 12 ปี ที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่14 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะด.ญ.ไปร่วมงานบวชเพื่อนของน้าสาว ตกดึกน้าสาวเมาเลยฝากเพื่อนชายในกลุ่มไปส่ง แต่กลับถูกพาไปข่มขืนในบ้านพักภารโรง ไม่หนำใจยังตามเพื่อนอีก 9 คนมาช่วยรุม ก่อนผลัดกันรุมขืนใจจนถึงเช้าจึงพาตัวไปส่ง พอวันที่ 17 ก็ถูกก่อเหตุซ้ำอีก ต่อมาผู้ปกครองตามเจอ สอบถามจนรู้ความจริง พาแจ้ง สภ.เขาคิชฌกูฏ ล่าสุดจับได้แล้ว เป็นเยาวชนอายุ 16-18 ปี 8 คน อีก 2 อายุ 20-21 ปี ส่วนด.ญ.ทางมูลนิธิประสานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.จันทบุรี เยียวยาต่อไป




เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่ สภ.เขาคิชฌกูฏ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาผู้ปกครองและญาติของด.ญ.กิ๊ฟ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เหยื่อที่ถูกกลุ่ม วัยรุ่นชายนับสิบคนล่อลวงไปรุมโทรม เข้าพบ พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เขาคิชฌกูฏ เพื่อเรียกร้องให้เร่งติดตามตัว ผู้กระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว 8 คน ยังเหลืออีก 2 คนยัง หลบหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยน.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี มีศักดิ์เป็นน้าสาว ได้ชักชวนด.ญ.กิ๊ฟไปร่วมงานบวชเพื่อน ที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ซึ่งในงานบวช น.ส.น้อยนั่งดื่มสุราอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวนกว่า 10 คน หลังเมาได้ที่น.ส.น้อยได้บอกให้หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.ไปส่งด.ญ.กิ๊ฟที่บ้าน แต่ชายคนดังกล่าวกลับพาด.ญ.กิ๊ฟไปที่บ้านพักภารโรง หลังร.ร.คลองพลูวิทยา ม.4 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ และได้ลงมือข่มขืน จากนั้นได้ตามเพื่อนในกลุ่มอีก 9 คนมารุมข่มขืนจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น. กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุยังพาตัวด.ญ.กิ๊ฟไปข่มขืนต่อภายในศาลาที่พักทางเข้าเขื่อนสันทราย จากนั้นพาตัวไปที่บ้านพักของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น และร่วมกันข่มขืนจนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 15 ก.ค. ก่อนที่จะพาตัวไปส่งที่บ้าน ต่อมาวันที่ 17 และ 18 ก.ค. น.ส.น้อยได้มาชักชวนด.ญ.กิ๊ฟออกไปบ้านแฟนของตน ก่อนถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย 4 คนที่เคยก่อเหตุในครั้งก่อนรุมข่มขืนซ้ำอีก

จนเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ญาติของด.ญ.กิ๊ฟ ออกตามหาจนมาพบตัวในหมู่บ้านน้ำขุ่น ต.คลองพลู เมื่อสอบถามด.ญ.กิ๊ฟจึงเล่า เรื่องราวให้ฟัง ทางญาติจึงพาตัวมาแจ้งความ ร้องทุกข์กับร.ต.ท.จุมพล จั่นสังข์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาคิชฌกูฏ 

หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.อภิชาติ พร้อมชุดสืบสวน ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ 8 คน ประกอบด้วยเยาวชน อายุ 16-18 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ชื่อ นายณัฐพล หรือต้า กลั่นศรี อายุ 20 ปี และนายณัฐพล หรือเปา พันธ์จันท์ อายุ 21 ปี ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถตามจับตัวไว้ได้แล้ว ทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ ต.คลองพลู และ ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันพาและ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากผู้ปกครอง และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม"

ขณะที่นางปวีณาเผยว่า หลังจากนี้ทางมูลนิธิจะพาตัวด.ญ.กิ๊ฟไปสอบปากคำต่อหน้าเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ณ สำนักงานอัยการ พร้อมทั้งจะได้ประสานทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.จันทบุรี ในการเยียวยาช่วยเหลือ ฟื้นฟูสภาพจิตใจด.ญ.กิ๊ฟ ให้กลับเป็นปกติและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมได้ต่อไป

จับทันควันมือฆ่า"น้องแจน" ที่แท้แฟนเก่าสมัยมัธยม อ้างแค้นผู้ตายทวงเงิน 1.5 พัน


 จากคดีสะเทือนขวัญเมืองสารคาม คนร้ายลวงสังหาร น.ส.รุจิษยา หรือแจน อมรศรีรัตนชัย อายุ 23 ปี ลูกสาวนายสมชาติ อมรศรีรัตนชัย ชื่อในวงการพระเครื่อง “เล็ก สารคาม” รองประธานบริหารพระเครื่องภาคอีสานเขต 2 ทิ้งศพบริเวณพงหญ้าข้างถนนบายพาสรอบเมืองมหาสารคาม หลังตลาดเกษตร ต.แก่งเลิงจาน


 
 โดยน้องแจนเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองนอก ได้ไม่กี่เดือน และได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา บอกพ่อว่าจะไปเดินตลาดไนท์ที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยจนมาพบเป็นศพ สำหรับบุตรสาวคนนี้ได้ไปช่วยงานร้านกาแฟแห่งหนึ่งกับเพื่อนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม


 ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ก.ค. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม, พ.ต.อ.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ รอง ผบก.ภ.จว.มหสารคาม, พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผกก.สส.ภ.จว.มหาสารคาม, พ.ต.อ.กฤตชัย สรวมศรี ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พร้อมฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงจับกุมนายศักดา ประเสิร์ฐสังข์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 15 ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งในต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาฆ่าน.ส.รุจิษยา โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ต้องหา


 โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมา จากหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมทั้งเข้าไปสอบถามเพื่อนผู้ตายที่ร้านกาแฟบาร์คอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ตายไปช่วยงานเพื่อนอยู่ จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาคือคนลงมือก่อเหตุ จึงติดตามจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักของผู้ต้องหาเอง


 จากการสอบสวน นายศักดา ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าสังหารน้องแจนจริง โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยคบหากับผู้ตายสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม และเลิกรากันไปได้ประมาณ 4-5 ปี จากนั้นตนก็ได้ขอยืมเงินผู้ตายไป 1,800 บาท และได้ใช้คืนไปแล้ว 500 บาท

 " ต่อมาผู้ตายได้มาทวงเงินที่เหลือ ผมจึงลวงผู้ตายให้ออกมาพบบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วใช้เชือกที่หาได้ในบริเวณนั้นมารัดผู้ตายจนเสียชีวิต ส่วนแผลที่เกิดจากรอยคล้ายของแข็งทุบตี ผมไม่ทราบ หลังจากนั้นผมได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปที่ร้านขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งเพื่อเตรียมแก้อีมี่เครื่อง ก่อนจะเตรียมตัวหลบหนี แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน"



จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยระหว่างแถลงจับกุมนั้น มีประชาชนหลายร้อยคนทราบข่าวฮือมาที่โรงพักเพื่อจะดูหน้าฆาตกร จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุไใม่ให้เกิดความวุ่นวาย